วันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

เที่ยวงาน หอศิลป์จามจุรี จุฬา

งาน Art Square V งานจัตุรัสศิลป์ครั้งที่ 5

ที่หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ใกล้ศูนย์การค้ามาบุญครอง)
ชมตลาดนัดไอเดียศิลปะแฮนด์เมด ของที่ระลึก ของฝาก การแสดงโชว์ชุดมนุษย์ทองคำ การแสดงดนตรี ร่วมเล่นเกมส์ชิงรางวัล ทานอาหารและเครื่องดื่มพร้อมชมหนังฝรั่งเศสฉายกลางแปลงด้วยฟิล์มหนัง 35 มม. ภายในบรรยากาศเป็นกันเองใต้ร่มไม้ และโคมไฟยามค่ำคืน ในระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2550 ระหว่างเวลา 16.00 น.-20.00 น. ชมฟรีตลอดงาน
ร่วมจัดโดยหอศิลป์จามจุรี ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) และสถานทูตฝรั่งเศส (เอื้อเฟื้อฟิล์มและเครื่องฉายภาพยนตร์ 35 มม.)
โปรแกรมภาพยนตร์ วันที่ 18-20 ธันวาคม ตั้งแต่ เวลาประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไป

18 ธันวาคม Kirikou and the Sorceress (Michel Ocelot) +
La Puritaine (Jacques Doillon)

19 ธันวาคม Umbrellas of Cherbourg (Jacques Demy) +
Orphee (Jean Cocteau)

20 ธันวาคม Les Revenants (They Came Back / Robin Campillo) +
Filles Uniques (Only Girls / Pierre Jolivet)

วันพุธที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐

โลกหนังสือ

by Ninamori

ฉันหยิบกระเป๋าสะพายไว้บนบ่าตั้งใจไว้ว่าจะไป ซีคอนสแควร์ ให้ได้

เพราะคิดถึงร้านหนังสือดวงกมล คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ คิดถึงเพื่อนๆ และคราวดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ อยู่ที่นั่น

และวันนี้ ฉันก็มาถึงที่นี่จนได้...
หลายอย่างเปลี่ยนไป...
แต่ เอ๊ะ! ฉันแทบไม่เชื่อสายตา เมื่อเงยหน้าขึ้น เห็นโลโก้ที่คุ้นเคย

อยากกรี๊ดดังๆ ดีใจจัง ดีใจมาก ที่พบว่าร้านหนังสือดวงกมล ย้ายมาอยู่ชั้น 3 ณ ตำแหน่งเดิม (โซนโลตัส) ที่คุณสุขเคยเปิดร้านดวงกมลครั้งแรก

ในร้านเต็มไปด้วยหนังสือมากมาย ทั้งหนังสือใหม่และหนังสือเก่าหายาก ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมหนังสือลดราคาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมี pocket book ภาษาอังกฤษ (มือสอง) นับแสนเล่มให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว


ฉันเดินดูทั่วร้าน ทุกย่างก้าวคิดถึงคุณสุข สูงสว่าง มาก คิดถึงความตั้งใจดีของคุณสุขที่อยากจะสร้างเมืองหนังสือให้คนไทยรักการอ่าน

ยิ่งเมื่อเห็นแผงนิตยสาร “โลกหนังสือ” หนังสือเล่มแรกที่ทำให้นักอ่านรู้จักคำว่า “ดวงกมล” ก็ยิ่งคิดถึงคุณสุขจับใจ

(Gunter Grass เจ้าของโนเบล ปี 1999 ขึ้นปก โลกหนังสือสมัยที่เขามาเยี่ยมคุณสุขที่ออฟฟิศ)

แม้คุณสุขจะจากไปแล้ว แต่วันนี้ฉันดีใจที่พื้นที่ตรงนี้ถูกสืบทอดปณิธานโดย คุณสมบูรณ์ สกุลสุทธวงศ์ กลับมาเป็นร้านหนังสือดวงกมลอีกครั้งในนาม ตลาดนัดหนังสือ หรือ เมืองหนังสือ แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนก่อน แต่ก็เชื่อว่าคุณสุขก็คงดีใจเหมือนกัน และหากใครที่คิดถึง ดวงกมล อยากเชิญชวนให้อุดหนุนหนังสือสักเล่มสองเล่มเพื่อสานฝันตามที่คุณสุขตั้งใจไว้ด้วยนะคะ

หมายเหตุ 1 :
ในห้างซีคอนสแควร์ มีร้านดวงกมล 2 แห่ง คือ ชั้น 3 โซนโลตัส และชั้นใต้ดิน (ตรงข้ามไปรษณีย์)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 081-7788877, 081-7711177 หรือ
เว็บไซต์ http://www.thaidk.com/ หรืออีเมล์ dkbookbb2000@yahoo.com

หมายเหตุ 2 :
อ่าน จากดวงใจ...ดวงกมล บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับคุณสุข ได้ที่
http://ninamori.blogspot.com/2007/07/2537.html

วันอังคารที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐

เรียนยาวีนอกปอเนาะ ตอน 6 กวนโอ๊ย !


ฮาฟีส – อูมี บะปอ ปลาดาว เดาะ โดะ อาต๊ะ ลางิ ฮื่อ ?
(แม่ ทำไม ปลาดาว ถึงไม่อยู่บนฟ้าล่ะ)

อูมี – ปลาดาว บูแก บีแต ! ปลาดาว ยอ โดะ ดาแล อาฮัย กาลู บีแต ยอ โดะ อาต๊ะ ลางิ
(ปลาดาว ไม่ใช่ดวงดาว ปลาดาว มันอยู่ในน้ำ ถ้าดวงดาวซิถึงจะอยู่บนท้องฟ้า)

ฮาฟีส – บูแก ! ปลาดาว ยอ กือเม๊าะ ยอ บือระ ยอ นาอัย อาต๊ะ ลางิ เตาะเล๊ะฮ์
(ไม่ใช่หรอก ปลาดาวมันอ้วน มันหนัก มันเลยขึ้นบนฟ้าไม่ไหว)

อูมี - ! # $ % &

ภาษาไทย = = = = = => ภาษามลายู
ทำไม = = = = = = = => บะปอ
บน = = = = = = = = = > อาต๊ะ
ฟ้า = = = = = = = = = > ลางิ
ไม่ใช่ = = = = = = = = > บูแก
ดวงดาว = = = = = = => บีแต
น้ำ = = = = = = = = = > อาฮัย
อ้วน = = = = = = = = > กือเม๊าะ
หนัก = = = = = = = = > บือระ
ขึ้น = = = = = = = = = > นาอัย

วันศุกร์ที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

หมุน ขยับๆ หุ่นไม้กลไกได้อารมณ์


by Ninamori

งงๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ในชุดดำบอกว่า “เล่นได้นะ” เพราะไม่แน่ใจว่าเขาจะให้เล่นอะไร จนกระทั่งเขาเข้ามาใกล้ๆ และบอกให้กดปุ่มเล่นหุ่นได้...
โอ๊ะ โอ ตั้งแต่ดูงานศิลปะมาก็ไม่เคยได้แตะต้องของๆ ใคร แต่งานนี้เขาอยากให้เรามีส่วนร่วมแฮะ และอนุญาตให้เล่นได้เต็มที่จนเลือกไม่ถูกว่า
จะเริ่มอันไหนก่อนดี



“แม่ๆๆ ดูนั่นๆ ขยับแล้วแม่ ” เสียงเด็กผู้หญิงวัยประมาณ 4 ขวบผมยาวน่ารักบอกแม่ด้วยความตื่นเต้น





“หนูทำได้แล้ว หนูทำให้มันขยับเอง” เธอร้องบอกแม่ด้วยความดีใจ แล้วก็หัวเราะชอบอกชอบใจในฝีมือตัวเองที่สามารถทำให้หุ่นเคลื่อนไหวได้ ก่อนที่
จะวิ่งวุ่นทั่วห้องจนแม่ตามแทบไม่ทัน





ระยะเวลา 2 เดือนกว่าๆ ตั้งแต่ 27 ก.ค. – 30 ก.ย.50 ที่ห้องจัดแสดง ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ชั้น 6 ดิ เอ็มโพเรียม นอกจากจะเป็นสถานที่จัดแสดงงานชั้นเยี่ยมชุดนี้แล้ว ยังจัดเป็นห้องแห่งความสุขแห่งปีก็ว่าได้ เพราะคนจำนวนมากที่มาเยี่ยมชมไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ ทุกคนมีความสุข หลายคนมามากกว่า 2 ครั้ง (งานเปิดให้ชมฟรี)

แค่ก้าวแรกที่เดินเข้าไป ก็คิดถึงเด็กๆ เยอะแยะไปหมด โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาส (อันที่จริงต่อให้มีเงินซื้อก็ไม่มีขายในโลก) คิดถึงเพื่อนๆ และเพื่อนของเพื่อนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก อยากให้พวกเขาได้มาดูด้วย เพราะมันสุดยอดมาก เป็นงานที่ละเอียดและน่าสนใจที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ถือเป็นส่วนหนึ่งที่เติมเต็มชีวิตในวัยเด็กก็ว่าได้ แต่ก่อนอื่นก็ขอถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกให้หลานที่ต่างจังหวัดได้ดูเพื่อประกอบการเล่านิทานก่อนนอน และสำหรับเพื่อนๆ ที่พลาดไม่ได้มาดู



อันที่จริงก็ชอบหุ่นไม้ทั้งหมดนะ แต่ที่ชอบมากกว่าคือ ชุดหุ่นไม้ชายหนุ่มผู้ฝันร้ายที่กำลังจะถูกงูยักษ์กิน, หุ่นชายหนุ่มผู้อาภัพรัก ชายผู้ตอกตะปูกี่ทีก็พลาด, เทพเจ้าแห่งความตายที่ต้องออกกำลังกายด้วยการซิตอัพเพื่อเสียดสีความเป็นอมตะของมนุษย์, แม่จิงโจ้ที่อุ้มลูกน้อยใส่กระเป๋าแล้วออกกำลังกายด้วยการกระโดดเชือก, นกยูงรำแพน, กาลาสีเรือพายเรือโต้คลืนยักษ์กลางมหาสมุทร, แมวจอมงกเลียน นมที่หกบนพื้น และอื่นๆ เป็นต้น



ใครคือนักประดิษฐ์เจ้าของผลงานเหล่านี้นะ
พวกเขามาไกลถึงประเทศอังกฤษเลยแหละ พวกเขาคือ Sue Stolpe, Paul Spooner, Peter Markey, Ron Fuller, Keith Newstead, Matt Smith และ Michael Howard



เหล่านี้คือส่วนสำคัญที่นักประดิษฐ์สร้างขึ้นมา เพื่อทำให้ไม้ธรรมดาๆ ลุกขึ้นมาปลุกจินตนาการของพวกเรา
เฟือง – ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ
เพลา – เป็นศูนย์กลางช่วยให้ฟันเฟืองอื่นๆ ทำงานอย่างเหมาะเจาะและต่อเนื่อง
ลูกเบี้ยว – หมุนไปผลักตัวตาม (ก้านที่ติดกับตัวหุ่น) ทำให้เกิดลูกเล่นในการเคลื่อนที่ซ้ายขวาขึ้นลง
ข้อต่อ – ส่งแรงจากข้อเหวี่ยงไปยังกลไกส่วนอื่นเพื่อเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหว
ข้อเหวี่ยง – เปลี่ยนการหมุนเป็นการเคลื่อนไหวขึ้นลงไปมา
คาน - ใช้ทุนแรงโดยพึ่งกำลังจากจุดหมุน
เฟืองขับและเฟืองทด – ทำให้หมุนได้ไม่หยุดในทิศทางเดียวกันและรอบเท่าๆ กัน



แล้วเจ้าหุ่นไม้ทั้งหลายก็เคลื่อนไหวเป็นจังหวะด้วยท่วงท่าโยกย้ายๆ หมุน ขยับๆ จนเรารักและเอ็นดูพวกมันจับใจ

วันอังคารที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

นับถอยหลัง สัตว์วิกาล : ภาพเรืองแสงของอภิชาติพงศ์

กว่าจะเป็นหนังสืออภิชาติพงศ์ (ตอน 3)
By Ninamori

สัตว์วิกาล : ภาพเรืองแสงของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
หนังสือลำดับที่ 11 ของ ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) พิมพ์โดย สำนักพิมพ์ Openbooks


หนังสือเกือบเสร็จแล้วจ้า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ต।ค.) ท่ามกลางดงสาวสวยธรรมศาสตร์ พวกเรานัดดูปรู๊ฟดิจิตอลครั้งสุดท้ายก่อนพิมพ์จริง แต่วันนี้พี่เจ้ยไม่สามารถมาได้เนื่องจากติดธุระที่ต่างประเทศ

ทำหนังสือมาก็หลายเล่ม แต่ไม่มีครั้งไหนที่ตื่นเต้น ดีใจ และโล่งอกเท่าเล่มนี้ เพราะกว่าจะถึงวันนี้ก็กินเวลานานร่วมปี


(พี่เก่ง - ทีฆะเดช บรรณาธิการเล่มคนขยัน)

หนังสือสวยจัง ไซ้ส์พิเศษ เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร หน้าสี-ขาวดำพอรวมเล่มแล้วเท่เป็นบ้า พวกเราลูบๆ คลำๆ พลิกดูหลายรอบ มาตอนนี้ มันดูสวยกว่าตอนที่พวกเรตรวจต้นฉบับกันเสียอีก สมแล้วล่ะที่พี่เจ้ย พิถีพิถันดูแลอย่างใกล้ชิด แถมโค้งสุดท้ายพี่ท่านยังมีการเพิ่มรูปอีกต่างหาก



สิ่งไหนที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับ อภิชาติพงศ์ และทีมงาน หนังสือเล่มนี้ก็มีให้มากกว่าที่คุณจะเคยอ่านจากที่ไหน อีกทั้งบางอย่างที่อภิชาติพงศ์ เองก็อยากรู้ (เขาถึงได้ทำหนังสือหรือทำหนังขึ้นมาไง) จำได้ว่าฉันเองก็ดีใจ เพราะตอนตรวจต้นฉบับแอบเห็นพี่เจ้ยนั่งขำเป็นระยะ ๆ ขณะอ่านคำให้การของทีมงาน

นี่เรียกได้ว่าเป็นเล่มแรกที่ทางสำนักพิมพ์โอเพ่นทุ่มทุนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ทำหนังสือมา ทุกคนที่ OPENBOOKS รวมทั้ง Filmvirus ภูมิใจกับงานชิ้นนี้มาก เรียกได้ว่าถ้า ฟิล์มไวรัส เลือกที่จะปิดท้ายงานพิมพ์หนังสือด้วยเล่มนี้ แทนที่จะเป็นเล่มของ อังเดร ทาร์คอฟสกี้ (ตามที่ตั้งใจแต่แรก) มันก็นับว่าสวยงามลงตัวที่สุด

(หญิง - สินีนาถ ฝ่ายประสานงานจากสำนักพิมพ์โอเพ่นบุ๊คส์)

นับจากนี้อีกประมาณ 10 วัน หนังสือก็จะเสร็จ แต่กว่าจะวางตลาดทั่วไปคงต้องรอถึงปลายเดือนพฤศจิกายน 2550 ใครที่อยากได้ก่อนหนังสือที่พิมพ์เสร็จชุดแรกจำนวน 100 เล่ม จะมีจำหน่ายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 17-28 ตุลาคม 2550 เวลา 10.00 น.- 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ท่านใดไปงานหาซื้อได้ที่บู๊ท Openbooks (L 01 แพลนนารี่ ฮอลล์) และ Alternative Writer (โซน C1 บู๊ท N36) นะคะ

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

สัตว์วิกาล เปิดใจ เจ้ย - อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล

กว่าจะเป็นหนังสืออภิชาติพงศ์ (ตอน 2)
ชื่อหนังสือคือ Unknown Forces : สัตว์วิกาล - ภาพเรืองแสงของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล



By Ninamori

ต่อจากตอนที่1 http://ninamori.blogspot.com/2007/07/unknown-forces_3454.html


ใครจะไปคิดว่าการทำหนังสือ Unknown Forces : สัตว์วิกาล - ภาพเรืองแสงของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เล่มนี้ เหมือนได้ไปอยู่ในกองถ่ายหนังอีกเรื่องของอภิชาติพงศ์ เพราะเขามักมีไอเดียใหม่ๆ มาเพิ่มเติมเสมอจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่... เฮ้ย ! เราว่าน่าจะมีส่วนนี้เพิ่มด้วยนะ เสียงนุ่มๆ อย่างสุภาพของเขาบอกให้ ทีฆะเดช -บรรณาธิการเล่ม) ช่วยเพิ่มเติมเนื้อหาในเล่ม

เมื่อแผนงานการจัดทำหนังสือทุกอย่างลงตัว เหล่านักเขียนและผู้มีส่วนร่วมต่างออกลู่วิ่งสุดตัว

เวลาผ่านไป ต้นฉบับของแต่ละคนก็เริ่มทยอยเข้ามา ด่านแรกที่ต้องทำคือตรวจสอบความเรียบร้อยของบทความก่อนที่จะลำเลียงส่งต่อให้กับคนทำอาร์ต

ด่านต่อไปที่ค่อนข้างทำให้ใครหลายคนปวดกระบาลคือการตั้งชื่อหนังสือ ตอนแรกยังมีแค่ชื่อ Unknown Forces ที่เดิมเป็นชื่องานแสดงศิลปะของพี่เจ้ยที่ต่างประเทศ ซึ่งตั้งใจให้เป็นชื่อหนังสือด้วย ต่างฝ่ายต่างรวมสมองช่วยกันตั้งชื่อ ชื่อแล้วชื่อเล่าที่เสนอไปล้วนยังไม่ถูกใจพี่เจ้ย จนกระทั่งสุดท้าย บรรณาธิการปากจัด – สนธยา ทรัพย์เย็น เสนอชื่อ สัตว์วิกาล - ภาพเรืองแสงของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล กับคำขยายความในภาษาอังกฤษ The Illumiated Art of Apichatpong Weerasethakul


ในช่วงที่อ่านต้นฉบับรอบแรกรู้สึกฮามาก อ่านไปหัวเราะไป สนธยา คิดถูกแล้วที่ให้ทีฆะเดชทำหนังสือเล่มนี้ เพราะนอกจากเขาเคยเป็นหนึ่งในกองถ่ายของพี่เจ้ยแล้ว เขายังสนิทสนมกับทีมงานในกองถ่ายเป็นอย่างดี ทำให้บทสัมภาษณ์ของเหล่าทีมงานออกมาสนุกสนานแบบไม่ต้องกั๊กกันเลย พวกเขาทำให้เรารู้อะไรหลายอย่างเกี่ยวกับพี่เจ้ยที่ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน นับเป็นประสบการณ์ชีวิตนอกห้องเรียนที่ดีเลยทีเดียว

ส่วนบทความอื่นๆ ล้วนน่าสนใจทั้งสิ้น เราเดินไต่ตัวหนังสือและดื่มด่ำผลงานต่างๆ มากมายของ อภิชาติพงศ์ ที่ไม่ใช่เฉพาะด้านภาพยนตร์เท่านั้น มันยังมีงานทางด้านศิลปะอีกมากที่รอแนะนำให้คุณเยี่ยมชม ยิ่งบทความเหล่านี้ได้ผ่านปลายปากกาของ พี่เจี๊ยบ- กฤติยา กาวีวงศ์ (เจ้าสำนัก จิม ทอมป์สัน), ไกรวุฒิ (หัวหน้ากองบรรณาธิการไบโอสโคป), วิวัฒน์ (กูรูฟิล์มไซเบอร์ หรือที่รู้จักกันดีในนาม Filmsick), ทีฆะเดช แห่ง Thai Short Film รวมทั้งเป็นบรรณาธิการเล่มนี้ และบทความพิเศษ 2 ชิ้นโดย อภิชาติพงศ์ ที่มีทีเด็ดคือ การเผชิญหน้าระหว่าง เจ้ย กับ ทรนง ศรีเชื้อ ผู้กำกับสุดห้าวของวงการหนังไทย อีกทั้งยังมี 2 แขกรับเชิญพิเศษที่มาร่วมประกอบคำนิยมด้วยคือ อ.เบน เอนเดอร์สัน และ คุณมุกหอม

จาก Deadline ส่งต้นฉบับให้โอเพ่น ที่ขอเลื่อนไปเรื่อยๆ ด้วยปัญหายิบย่อยร้อยแปดพันเก้าจากปลาย มิ.ย. --> ก.ค. --> ส.ค. --> วันที่ 15 ก.ย. --> 17 ก.ย.--> 24 ก.ย. --> 28 ก.ย. และสุดท้ายต้นเดือนตุลาเพิ่งลากเข้าโรงพิมพ์ได้

ระหว่างรอโรงพิมพ์ทำคลอดหนังสือ ก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

วันที่ 16 ก.ย.50 หลังจากเสร็จสิ้นจากฉายหนังที่ ม.ธรรมศาสตร์ เราต่างเดินทางไปตามที่นัดหมายเพื่อตรวจต้นฉบับที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า บริเวณศูนย์อาหาร ชั้น 5 วันนั้นมี อภิชาติพงศ์, สนธยา, ทีฆะเดช และฉัน

นี่หรือพี่เจ้ย – อภิชาติพงศ์ เขาเป็นคนละเอียดมากเลยนะ ทั้งสุภาพอ่อนโยน เป็นคนเรียบง่าย และจริงใจเอามากๆ อันที่จริงเวลาของเขาน่าจะอยู่กับการคิดบทหนังหรือสร้างงานชิ้นต่อๆ ไป แต่เขากลับมานั่งจ๊กม๊กตรวจต้นฉบับกับพวกเรา 4 คน นับเป็นครั้งแรกในชีวิตการพิสูจน์อักษรที่อบอุ่นที่สุด ทุกคนนั่งทำงานจริงจัง แต่บางขณะก็พูดคุยกับพี่เจ้ยเรื่อยเปื่อย เพราะโอกาสที่จะได้มานั่งคุยกับเขาสบายๆ แบบนั้นนับว่าหาได้ยากมาก ๆ

เมื่อบทความชิ้นแรกถูกตรวจสอบ มันก็จะถูกส่งต่อให้คนที่ 2, 3 และ 4 เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนห้างปิด แต่เรายังคงตรวจกันต่อ เวลาผ่านไปอีก 1 และ 2 ชั่วโมง พวกเราก็ยังตรวจกันต่อ หน่วยรักษาความปลอดภัยรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับพวกเรา แต่เขาก็น่ารักพอที่ไม่เสียมารยาทมาไล่พวกเรา จนกระทั่งยามคนหนึ่งเริ่มไอเดียบรรเจิดปิดไฟบริเวณที่เรานั่ง แค่นั้นแหละวงแตก

หลังจากวันนั้นยังมีการตรวจต้นฉบับต่อไปอีกหลายครั้ง โดยพี่เจ้ยเป็นโต้โผหลัก ทั้งตรวจต้นฉบับที่พริ้นท์เป็นกระดาษ และบนจอคอมพิวเตอร์

มุมหนึ่งในสยามพารากอน 17 ก.ย. 50 เวลา 14.00 น.


วันนี้เป็นวันแรกที่เราทุกคนมาพบกันพร้อมหน้ากับเจ้าสำนักโอเพ่น - คุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมา เพื่อพูดคุย ถึงรายละเอียดต่างๆ ที่อยากให้มี(เพิ่ม)ในหนังสือ ซึ่งก่อนหน้านั้นติดต่อผ่านตัวแทนคนขยันอย่างน้องหญิงมาตลอด เธอคอยอำนวยความสะดวกและเป็นที่ปรึกษาให้กับเราได้เป็นอย่างดี เพราะพี่โญมีงานแน่นเอี๊ยด นอกจากพี่โญจะเป็นผู้บริหาร/บรรณาธิการ สำนักพิมพ์โอเพ่นและโอเพ่นออนไลน์แล้ว เขายังมีบทบาทหลายอย่างทั้งเป็นนักคิดนักเขียน ออกพ็อตเก็ตบุ๊คดีๆ หลายเล่มที่เขียนเอง เป็นนักเขียนให้กับนิตยสารอื่นๆ หลายสำนัก เป็นพิธีกรและแขกรับเชิญตามเวทีสำคัญๆ นับไม่ถ้วน เป็นดีเจจัดรายการวิทยุ ร่วมกับ FAT RADIOPEN คลื่น FM 104.5 ชื่อรายการ “เปิดสมอง ลองตั้งคำถาม” ทุกคืนวันเสาร์ เวลา 20.00 – 21.30 น. และเขาคนนี้แหละที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยถูกเสนอชื่อจาก 10 ประเทศทั่วโลก เข้าชิงรางวัล British Council International Young Publisher of the Year 2005

พี่โญวันนี้ไม่เปลี่ยนเลย หน้าเด็กมาก เขาเป็นบรรณาธิการที่อายุน้อย ใจกว้าง กล้าคิดกล้าทำ คุยสนุก และยิ้มแย้ม เขาคอยหยอดมุขตลอดเวลา ทำให้พวกเราสนุกไปด้วย คุยงานไปหัวเราะไป พร้อมช่วยกันหารือเลือกปกหนังสือ การเจรจาวันนั้นลุล่วงด้วยดีพร้อมกับหน้าสีที่ต้องเพิ่มขึ้น กระดาษแบบที่พี่เจ้ยพอใจ ไซ้ส์หนังสือแบบแหวกแนว และปกที่ไม่เกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม
.............................................................................................................

Unknown Forces : The Illumiated Art of Apichatpong Weerasethakul
สัตว์วิกาล - ภาพเรืองแสงของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
หนังสือขนาดพิเศษ 173 x 200 มม.
จำนวน 336 หน้า
หน้าขาวดำ ผสม หน้าสี
กระดาษ 2 แบบ (กระดาษปอนด์ถนอมสายตา + กระดาษอาร์ตแบบบาง (ในแบบที่พี่เจ้ยชอบ))
ราคา 300 บาท
พิมพ์จำนวนจำกัด