Enki Bilal มาเมืองไทย
by Ninamori
จุ๊บบบ... เสียงจุ๊บของใครน่ะ ช่างน่ารักน่าชัง เสียงมันชวนให้มองหา เสียงจุ๊บจากด้านหน้าทีหลังที อุ๊ยอีกทีก็โผล่มาด้านข้าง จุ๊บ.. จุ๊บ.. คนฝรั่งเศสเขาทักทายกันปรู๊ดปร๊าดอย่างนี้นี่เอง วันนี้นอกจากจะได้ดูหนัง (สือ) พร้อมเจอเจ้าตัว Enki Bilal ตัวเป็นๆ แล้ว คนจุ๊บกันก็เป็นอะไรที่แปลกและน่าสนใจไม่น้อย แถมลีลาการจุ๊บของแต่ละคนก็ต่างกัน ผู้ชายที่ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาวยื่นปากยาวจุ๊บสาว ส่วนสาวเจ้าเสน่ห์ผมทองเม้มปากตัวเองเข้าหากันแล้วก็จุ๊บเพื่อนหญิง อุ๊ย ! ชายสุดหล่อคนนั้นทำปากเหมือนอมยิ้มแล้วจุ๊บเพื่อนชายของเขา แต่ไม่ว่าแบบไหน ต่างก็มีเสียง “จุ๊บ” ดังออกมา จุ๊บ...จุ๊บ
ย้อนไปสัก 13 ปีที่แล้ว ที่เจ้าสำนัก ฟิล์มไวรัส เคยอวดหนังสือของ Enki Bilal : La Trilogie Nikopol ที่ซื้อจากร้านดวงกมล ฯ สาขาสมาคมฝรั่งเศส แถมไม่เชื่อหูเลยว่า เขาซื้อมาในราคาเล่มละ 449 บาท เท่านั้น รูปเล่มใหญ่มาก ปกแข็ง กระดาษดี รูปสีทั้งเล่มเลย ฉันลองพลิกดูไปมา และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ได้ดูหนังสือการ์ตูนฝรั่งที่อ่านไม่ออกสักตัว และได้รู้จักงานของเขาอีกครั้ง เมื่อหนังของเขาฉายในโรงที่เมเจอร์ปิ่นเกล้า ช่วงกลางเดือนมีนาคม 49 น่าเศร้าแท้ที่ตอนนั้นมีคนแค่หยิบมือเพียง 5 คน และจากไปอย่างเงียบๆ
วันนั้นที่เซ็นทรัลเวิล์ด ฉันเห็นป้ายโปรโมทโดยบังเอิญบอกว่า Enki Bilal มาเมืองไทย ฉันอ่านป้ายซ้ำอีกครั้งก่อนเดินไปซื้อขนมจีนกินเป็นมื้อเย็น และกลับมาอ่านอีกรอบหลังจากขนมจีนบอกลาเพื่อนๆ มาอยู่ในท้องฉันหมดแล้ว
วันเปิดงาน 19 มิ.ย.50 ที่สมาคมฝรั่งเศส แฟนคลับจำนวนมากทั้งไทยและเทศ ทั้งที่เป็นตัวจริง กำลังจะจริง และยังไม่แน่ใจว่าจะเป็น ต่างพร้อมใจมาพิสูจน์ด้วยตัวเองถึงกิตติศัพท์คำล่ำลือ
ช่วงแจกลายเซ็น แฟนคลับเข้าแถวยาวเหยียด ฉันไปยืนดูหน้าโต๊ะที่เขานั่ง... โอ๊ย ! สวยจัง ไม่น่าล่ะมันถึงได้นาน เพราะนอกจากเซ็นชื่อแล้ว เขายังวาดรูปให้ด้วยล่ะ
วันรุ่งขึ้นฉันตามไปดูงานแสดงของเขาต่อที่ Tang Gallery ตึกสีลมแกลเลอเรีย มีทั้งหน้าเดิมจากเมื่อวานและหน้าใหม่มาเจอกันอีกครั้ง งานของ Enki Bilal เป็นงานที่น่าสนใจและแปลกตาดี มันเต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการของโลกอนาคตที่ทันสมัยมาก มีรถลอยฟ้าขับเครื่องในอากาศ มีเทพอียิปต์ที่มีหัวเป็นนก มีหญิงสาวที่น้ำตาของเธอเป็นสีน้ำเงิน มีการบันทึกความจำของคนลงในแผ่นชิพ ไม่น่าเชื่อว่ากระดาษสีขาวธรรมดาๆ จะกลายเป็นภาพ 3 มิติที่ลอยเด้งออกมา วันนั้นมีโปสเตอร์ขายด้วยราคาใบละ 1,250 บาท หลายคนควักเงินถึง 5,000 บาท ซื้อเก็บไว้พร้อมขอลายเซ็นการันตีความภาคภูมิใจ
ส่วนในกลุ่มของเรา เจ้าสำนักฟิล์มไวรัส ขนหนังสือทั้งเวอร์ชั่น เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และไทย ส่วน ธเนศน์ เพื่อนของเราดึงดีวีดี Immortal กับ Nikopol ฉบับแปลไทยออกมาจากกระเป๋า และน้องสุดท้องในกลุ่ม น้องโซน ควักโปสเตอร์หนังขนาดใหญ่ยักษ์ที่ออกแบบโดย Bilal ซึ่งได้จากสมาคมฝรั่งเศสเมื่อหลายปีก่อน พวกเราขอลายเซ็น Enki Bilal เก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็นหลักฐานว่า ครั้งหนึ่งนักวาดการ์ตูนแนวแปลกคนนี้ก็เคยมาเยือนบางกอกแล้ว
by Ninamori
จุ๊บบบ... เสียงจุ๊บของใครน่ะ ช่างน่ารักน่าชัง เสียงมันชวนให้มองหา เสียงจุ๊บจากด้านหน้าทีหลังที อุ๊ยอีกทีก็โผล่มาด้านข้าง จุ๊บ.. จุ๊บ.. คนฝรั่งเศสเขาทักทายกันปรู๊ดปร๊าดอย่างนี้นี่เอง วันนี้นอกจากจะได้ดูหนัง (สือ) พร้อมเจอเจ้าตัว Enki Bilal ตัวเป็นๆ แล้ว คนจุ๊บกันก็เป็นอะไรที่แปลกและน่าสนใจไม่น้อย แถมลีลาการจุ๊บของแต่ละคนก็ต่างกัน ผู้ชายที่ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาวยื่นปากยาวจุ๊บสาว ส่วนสาวเจ้าเสน่ห์ผมทองเม้มปากตัวเองเข้าหากันแล้วก็จุ๊บเพื่อนหญิง อุ๊ย ! ชายสุดหล่อคนนั้นทำปากเหมือนอมยิ้มแล้วจุ๊บเพื่อนชายของเขา แต่ไม่ว่าแบบไหน ต่างก็มีเสียง “จุ๊บ” ดังออกมา จุ๊บ...จุ๊บ
ย้อนไปสัก 13 ปีที่แล้ว ที่เจ้าสำนัก ฟิล์มไวรัส เคยอวดหนังสือของ Enki Bilal : La Trilogie Nikopol ที่ซื้อจากร้านดวงกมล ฯ สาขาสมาคมฝรั่งเศส แถมไม่เชื่อหูเลยว่า เขาซื้อมาในราคาเล่มละ 449 บาท เท่านั้น รูปเล่มใหญ่มาก ปกแข็ง กระดาษดี รูปสีทั้งเล่มเลย ฉันลองพลิกดูไปมา และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ได้ดูหนังสือการ์ตูนฝรั่งที่อ่านไม่ออกสักตัว และได้รู้จักงานของเขาอีกครั้ง เมื่อหนังของเขาฉายในโรงที่เมเจอร์ปิ่นเกล้า ช่วงกลางเดือนมีนาคม 49 น่าเศร้าแท้ที่ตอนนั้นมีคนแค่หยิบมือเพียง 5 คน และจากไปอย่างเงียบๆ
วันนั้นที่เซ็นทรัลเวิล์ด ฉันเห็นป้ายโปรโมทโดยบังเอิญบอกว่า Enki Bilal มาเมืองไทย ฉันอ่านป้ายซ้ำอีกครั้งก่อนเดินไปซื้อขนมจีนกินเป็นมื้อเย็น และกลับมาอ่านอีกรอบหลังจากขนมจีนบอกลาเพื่อนๆ มาอยู่ในท้องฉันหมดแล้ว
วันเปิดงาน 19 มิ.ย.50 ที่สมาคมฝรั่งเศส แฟนคลับจำนวนมากทั้งไทยและเทศ ทั้งที่เป็นตัวจริง กำลังจะจริง และยังไม่แน่ใจว่าจะเป็น ต่างพร้อมใจมาพิสูจน์ด้วยตัวเองถึงกิตติศัพท์คำล่ำลือ
ช่วงแจกลายเซ็น แฟนคลับเข้าแถวยาวเหยียด ฉันไปยืนดูหน้าโต๊ะที่เขานั่ง... โอ๊ย ! สวยจัง ไม่น่าล่ะมันถึงได้นาน เพราะนอกจากเซ็นชื่อแล้ว เขายังวาดรูปให้ด้วยล่ะ
วันรุ่งขึ้นฉันตามไปดูงานแสดงของเขาต่อที่ Tang Gallery ตึกสีลมแกลเลอเรีย มีทั้งหน้าเดิมจากเมื่อวานและหน้าใหม่มาเจอกันอีกครั้ง งานของ Enki Bilal เป็นงานที่น่าสนใจและแปลกตาดี มันเต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการของโลกอนาคตที่ทันสมัยมาก มีรถลอยฟ้าขับเครื่องในอากาศ มีเทพอียิปต์ที่มีหัวเป็นนก มีหญิงสาวที่น้ำตาของเธอเป็นสีน้ำเงิน มีการบันทึกความจำของคนลงในแผ่นชิพ ไม่น่าเชื่อว่ากระดาษสีขาวธรรมดาๆ จะกลายเป็นภาพ 3 มิติที่ลอยเด้งออกมา วันนั้นมีโปสเตอร์ขายด้วยราคาใบละ 1,250 บาท หลายคนควักเงินถึง 5,000 บาท ซื้อเก็บไว้พร้อมขอลายเซ็นการันตีความภาคภูมิใจ
ส่วนในกลุ่มของเรา เจ้าสำนักฟิล์มไวรัส ขนหนังสือทั้งเวอร์ชั่น เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และไทย ส่วน ธเนศน์ เพื่อนของเราดึงดีวีดี Immortal กับ Nikopol ฉบับแปลไทยออกมาจากกระเป๋า และน้องสุดท้องในกลุ่ม น้องโซน ควักโปสเตอร์หนังขนาดใหญ่ยักษ์ที่ออกแบบโดย Bilal ซึ่งได้จากสมาคมฝรั่งเศสเมื่อหลายปีก่อน พวกเราขอลายเซ็น Enki Bilal เก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็นหลักฐานว่า ครั้งหนึ่งนักวาดการ์ตูนแนวแปลกคนนี้ก็เคยมาเยือนบางกอกแล้ว
หมายเหตุ : เอื้อเฟื้อภาพประกอบโดย ฟิล์มไวรัส
๒ ความคิดเห็น:
มาเยือนแล้ว ดีใจด้วยที่มีบล็อก งานเขียนก็คล่องแคล่วนะ เห็นเขาว่ากันว่าเขียนต่อเนื่องแล้วความเกร็งจะลดลง ทุกวันนี้ผมเองก็ยังเกร็งๆ อยู่เลย แล้วเจอกันครับ
ขอบคุณคุณ nunman มากนะคะที่ส่งกำลังใจมาให้ เรายังมือใหม่อยู่เลย แต่ก็จะพยายามต่อไปนะ
แสดงความคิดเห็น