หัวใจเต้นตุ๊บ...ๆ เพราะเรือที่นั่งมาดันเจอคลื่นลูกใหญ่ แต่ฉันก็มาถึงงาน ดอนกิโฆเต้ จนได้
ใครๆ เขาว่ากันว่า (รวมทั้งนักเขียนรางวัลโนเบล 100 ชีวิต) ดอนกิโฆเต้ เป็นนวนิยายเรื่องแรกของโลก มีผู้อ่านมากที่สุดในโลก ดีที่สุดในโลก และแปลเป็นภาษาต่างๆ มากที่สุดในโลก
ฉันมาก่อนงานเปิดเล็กน้อย มีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ฉันยืนใกล้ๆ คุณป้าท่านหนึ่ง คุณป้ากำลังคุยกับเพื่อนด้วยความตื่นเต้น... เปล่านะ ! คุณป้าไม่ได้พูดถึง ดอนกิโฆเต้... แต่แกกำลังพูดถึงคนที่แกปลื้มเอามากๆ คือท่านชวน หลีกภัย ที่วันนี้มาเป็นประธานเปิดงาน ต้องขอบคุณท่านชวนและดอนกิโฆเต้นะที่ทำให้คนแก่มีความสุข เนี่ย ขนาดยังไม่ได้อ่านหนังสือนะ!
ในงาน นิทรรศการหนังสือ “ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน” มีจัดแสดงหนังสือหายากเรื่องดอนกิโฆเต้หลายภาษา หนังสือขนาดใหญ่ฉบับโบราณของแท้ภาษาฝรั่งเศสก็มา มีแม่พิมพ์ที่เป็นแท่งเหล็ก และของที่ระลึกต่างๆ ที่ชาวสเปนภูมิใจเสนอทั้งธนบัตร เหรียญทองคำ แสตมป์ และของชำร่วยที่ทำด้วยทองแดงซึ่งล้วนหาดูไม่ง่ายนัก
หนังสือ ดอนกิโฆเต้ หลายเล่มปกสวยน่าอ่าน รวมทั้งฉบับภาษาไทยของสำนักพิมพ์ผีเสื้อที่ปกทำด้วยผ้า แต่เล่มหนามาก จัดจำหน่ายโดย บริษัท ดวงกมลสมัย จำกัด แต่ของฉันเล่มเล็กนิดเดียว เป็นของสำนักพิมพ์เม็ดทราย พิมพ์เมื่อปี 2535 เล่มละ 18 บาท
แล้วคนแต่ง ดอนกิโฆเต้ เป็นใคร มาจากไหนกันนะ
มิเกล์ เด เซร์บันเตส คือคนเขียนเรื่อง ดอนกิโฆเต้ ประวัติของเขาทำให้ฉันน้ำตาซึม เพราะในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่นั้นช่างตรงกันข้ามกับความดังของหนังสืออย่างสิ้นเชิง เพราะมันคือวิถีแห่งการต่อสู้กับความยากจน เขาอดมื้อกินมื้อ และมีหนี้สิน ซ้ำโชคร้ายบริสุทธิ์ ไม่มีใครทราบประวัติของเขาเลยในช่วง 20 ปีแรก รู้แต่เพียงว่าเขาเกิดที่เมือง Alcala de Henares ในปี 1547 เป็นลูกคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน พ่อชื่อ โรดริโก เด เซร์บันเตส เป็นศัลยแพทย์ที่มีฐานะยากจนและไม่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาได้เรียนหนังสือหรือเปล่า
ชีวิตเริ่มมีประวัติเมื่ออายุ 22
เขาเคยสมัครเป็นทหารประจำการในกองอาสาสมัครสเปน ถูกส่งตัวไปรบที่อิตาลีและได้รับบาดเจ็บถูกยิงทำให้มือข้างซ้ายพิการ เขาเคยถูกโจรสลัดจับเป็นเชลยและถูกขายเป็นทาสถึง 5 ปี เขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร เขาเคยเป็นนักเขียนหนังสือละครประมาณ 20-30 เรื่อง ซึ่งทุกเรื่องล้วนล้มเหลวไม่เป็นท่า
เขาอยู่อย่างยากลำบากวันแล้ววันเล่า จนถูกจำคุกจากหนี้สินอีกครั้งถึง 3 เดือน เพราะไม่มีเงินมาไถ่ตัว แต่การติดคุกครั้งนี้มีข้อดีเหมือนกัน เพราะ ดอนกิโฆเต้ เกิดที่นั้นโดยเขาเป็นทั้งพ่อและแม่ของเด็ก
ดอนกิโฆเต้ พิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1605 หนังสือประสบผลสำเร็จอย่างล้นหลาม แต่เขาได้ค่าเรื่องเพียงน้อยนิด เพราะมีการลักลอบพิมพ์งานของเขาเป็นจำนวนมาก และในปีต่อมาเขาก็เสียชีวิต...
และนั่นคือประวัติเกี่ยวกับเขาโดยย่อ...
ดอนกิโฆเต้ ฯ ที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพ ฯ
งานครั้งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการร่วมมือระหว่าง สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นิตยสาร ค คน สำนักพิมพ์ผีเสื้อ และ ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส)
นิยาย ดอนกิโฆเต้ ฉบับปกรูปโดมธรรมศาสตร์ ถูกจัดพิมพ์ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อร่วมฉลองวาระสถาปนามหาวิทยาลัย และการเปิดสอนหลักสูตรภาษาสเปนเป็นครั้งแรกที่นี่
ระหว่างจัดงานมีการเสวนาจากผู้ชำนาญอย่าง อ.ทรงยศ แววหงษ์, คุณสุชาติ สวัสดิ์ศรี, อ.นุชธิดา ราศรีวิสุทธิ์, รศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ, ดร.วัลยา วิวัฒน์ศร, ดร.ปณิธิ หุ่นแสวง ,คุณมกุฏ อรฤดี และทีมจากนิตยสาร ค.คน เวียง วชิระ บัวสนธ์, สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ และ อธิคม คุณาวุฒิ ร่วมเสวนาให้ความรู้
ตัวฉันเป็นตัวแทน ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) มีส่วนร่วมเป็นผู้จัดกับเขาด้วยในการหาหนังดอนกิโฆเต้ 3 เวอร์ชั่น มาฉายมี เรื่อง Don Quixote สู่ฝัน... อันยิ่งใหญ่ (พูดอังกฤษบรรยายไทย) กำกับโดย Peter Yates , เรื่อง Don Quixote กำกับโดย Orson Welles และ เรื่อง Lost in La Mancha กำกับและเขียนบทโดย Keith Fulton, Louis Pepe
หากท่านใดที่ผ่านแถว ธรรมศาสตร์- สนามหลวง อยากเชิญชวนให้มาดูงานนี้ อาจจะหลังทำธุระหรือก่อนไปก่อม็อบก็ไม่ว่ากัน งานมีทุกวันถึงวันที่ 20 ก.ค.50 ส่วนวันที่ 14 ก.ค. เวลา 13.30 น. มีเสวนา “นวนิยายดีที่สุดในโลก : ดีอย่างไร” และหลังการเสวนาฉายภาพยนตร์ ดอนกิโฆเต้ : สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ ของ Peter Yates
หมายเหตุ
http://dkfilmhouse.blogspot.com/2008/06/blog-post_17.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น