วันอังคารที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒

ฉลอง 13 ปี ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) : 13th Anniversary D.K.Filmhouse (Filmvirus)


by Ninamori

นโยบายของ ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส)
คือ การเปิดประตูสู่โลกกว้างแห่งภาพยนตร์นานาชาติ ให้รับรู้ความเคลื่อนไหวของแสงสี กลิ่น รสที่หลายหลากทางภูมิปัญญา โดยพยายามไม่ยึดติดกับชื่อเสียงและความคลาสสิก เพราะตระหนักว่า คำ “ หนังดี ” นั้นพูดง่ายและไม่ใช่จุดจบ ดวงกมล-ฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) จึงขอเสนอหนังแปลกที่น่าสนใจ หาดูได้ยาก (ซึ่งไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อดูยากเสมอไป) ทว่าเน้นหนักในด้านคุณค่าทางศิลปะภาพยนตร์มากกว่าคุณค่าเชิงวัฒนธรรมหรือการโหยหาอดีต

ดังที่รู้กันว่าหนังดีที่สมบูรณ์แบบ ทุกคนเห็นพ้องกันนั้นเป็นไม่มี ทางดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ฯ ขอรับรองว่า มันเป็นความยิ่งหย่อนไม่น้อยกว่ากัน ในการที่หนังจะกล้าคิดอาจหาญให้แตกต่างออกไปจากหนังหมื่นล้านเรื่องที่คุณพานพบทุกวัน หวังว่าคุณคงได้พบหนังดังกล่าวในการมาเยี่ยมเยือนเรา


ศิลปะเป็นเหตุ
“ อะไรนะ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ” ฉันถามเจ้าสำนัก (สนธยา ทรัพย์เย็น) ด้วยความตกใจเมื่อเขาบอกว่าจะแสดงงานศิลปะภาพยนตร์ในหอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันทีจริงฉันน่าจะชินและรู้สึกเฉยๆ กับผู้ชายคนนี้มากกว่า เพราะเขามักมีไอเดียแปลกๆ อยากทำโน่นนี่เสมอ



“ เอ้า เอาก็เอา ” ฉันตอบเขาไป แล้วเขาก็รีบเล่ารายละเอียดของงานด้วยแววตาที่ตื่นเต้นว่า เขาจะรวบรวมผลงานวิจารณ์หนังของนักวิจารณ์ทั้งหมดในเมืองไทย นับจากช่วงระยะเวลาที่เข้มข้นของงานวิจารณ์ตั้งแต่กลางทศวรรษ 80 – ปัจจุบัน พร้อมมีการเสวนาและฉายหนังด้วย ทีนี้แหละคนทั่วไปจะได้รู้สักทีว่าในโลกนี้ยังมีอาชีพนักวิจารณ์รวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่มีเกียรติและน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง แล้วเขาก็ตั้งชื่องานว่า “3 ทศวรรษศิลปะภาพยนตร์ผ่านงานวิจารณ์”

จากกระดาษเปล่าๆ สีขาว ปรากฏอักขระสวยงาม และสวยขึ้นอีกเมื่อ กัลปพฤกษ์ โอเคช่วยทำอาร์ทเวิรค์ตัวอย่างงานที่เตรียมไว้พร้อมภาพประกอบแนบไปกับโครงการเพื่อเสนอขอใช้สถานที่จัดงานให้หอศิลป์ฯ งานนี้เราต้องยื่นโครงการล่วงหน้าถึง 1 ปี เราใจตุ๊บๆ ตุ้มๆ เมื่อรู้ว่าในแต่ละปีจะมีศิลปินส่งโครงงานเยอะมากหลายร้อยชีวิต บางปีมีถึง 500 ศิลปิน แต่ปีหนึ่ง สามารถแสดงงานได้ประมาณ 50 ศิลปินเท่านั้น
เกิดอะไรขึ้น
ฉันเห็นเจ้าสำนัก กุมขมับ ถอนหายใจเฮือกๆ เมื่อสิ่งที่เขาตั้งใจอยากจัดงาน 3 ทศวรรษศิลปะภาพยนตร์ผ่านงานวิจารณ์ นั้นจำใจต้องยกเลิกไป มันไม่ใช่เหตุผลเพราะต้องใช้ทุนจัดงานค่อนข้างสูง (มาก) อย่างเดียว แต่มันมีเหตุผลอันเหลือเชื่อที่ว่าสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำและเชิดชูนักวิจารณ์นั้นกลับไม่ได้รับความร่วมมือจากนักวิจารณ์หนังเสียเอง ทั้งจากนักวิจารณ์รุ่นใหญ่และรุ่นเล็ก

สลับตัวศิลปิน
เวลาเริ่มเหลือน้อยเต็มที เจ้าสำนักมาตัดสินใจในช่วงเส้นยาแดงผ่านแปดระหว่างรอวันเดดไลน์ที่นักวิจารณ์ส่งงาน ด้วยทนการนิ่งดูดายของนักวิจารณ์ไม่ไหว เขาตัดสินใจเปลี่ยนมาจัดงาน ฉลอง 13 ปี ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) แทน หลังจากที่พยายามเชื้อเชิญคนวงการละครเวที วงการวรรณศิลป์ให้มาต่อสิทธิ์ขอใช้สถานที่ เพราะไหน ๆ ได้สิทธิ์เข้ารอบให้ใช้สถานที่มาทั้งทีก็ไม่อยากสูญเปล่าถูกทางหอศิลป์โมฆะยกเลิก แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีคนรับช่วง สุดท้ายก็อย่างที่เห็น งานของฟิล์มไวรัส เริ่มจัดขึ้นอย่างขาสั่นงันงก ไม่เคยมีประสบการณ์การจัดงานแสดงในแกลเลอรี่ ขั้นตอนการทำงาน หลักการที่ต้องทำมีอะไรบ้างก็ยังไม่รู้

กว่าจะถึงวันงาน
ต้องขอบคุณจากใจทั้งหมดที่มี ที่เพื่อนๆ น้องๆ ทุ่มเททั้งกายใจมาช่วย ทำให้งานออกมาสมบูรณ์เพอร์เฟ็กท์อย่างที่เห็น โดย
เฉพาะเกมแสวงบุญฮอลลีวู้ดเมกกะที่เจ้าสำนักออกแบบ
กว่าจะผ่านขั้นตอนแต่ละด่านช่างสาหัสเอาการ เริ่มจาก
ฝ่ายอาร์ทต้องดีไซน์วัดขนาดจนเหงื่อตกเพื่อให้ได้ดั่งใจผู้จัด100%
จากนั้นเป็นกระบวนการตัดสติ๊กเกอร์ พอตัดเสร็จ ก็ต้องแกะตัวอักษรทีละตัวอย่างใจเย็นที่สุด
พอแกะเสร็จแล้วก็ต้องมานั่งลอกสติ๊กเกอร์เป็นส่วนๆ แล้วมาแปะปะติดปะต่อบนพื้นให้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน จนต้องก้มๆ เงยๆ จนหน้ามืดและปวดหลังไปตามๆ กัน แถมต้องอดหลับอดนอน กว่าจะกลับถึงบ้านตี 1 ตี 2 ขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจอีกครั้งนะคะ

ฉลอง 13 ปี ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส)
ทันทีที่ สนธยา ออกมากล่าวเปิดงาน วันศุกร์ ที่ 9 ม.ค.52 เวลา 18.00 น. ฉันเริ่มยืนไม่ติด เพราะแสงแฟลชจากกล้องหลายตัวสว่างวูบวาบ

ฉันเกรงว่าเขาจะเกร็งแล้วพูดไม่ออก แต่แล้วก็โล่งอกเพราะเขาสามารถคุมตัวเองไปได้ แถมวันนั้นพูดเยอะเป็นพิเศษ ฉันแอบถามตากล้อง
เหล่านั้นว่ามาจากไหน ถึงรู้ว่าเขาเป็นตากล้องของ ค.คน กับ จีเอ็ม และอีกหนึ่งหน่วยงานอิสระที่ทำสารคดีต่างๆ

บรรยากาศเปิดงานชื่นมื่น เห็นสนธยายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนเปิดงานเสียอีก เพราะไกรวุฒินำรางวัลที่ทางไบโอสโคปมอบให้ฟิล์มไวรัส ปี 2008 และขอบคุณทุกกำลังใจที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะเพื่อนหลายคนที่เดินทางไกลมาจากต่างจังหวัด

วันนั้นนอกจาก สนธยา ออกมาพูดบอกเล่าประสบการณ์การดูหนังของเขาในอดีตแล้ว ก็มีคุณ สุชาติ สวัสดิ์ศรี ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน โดยมีคุณป๊อป-มโนธรรม เทียมเทียบรัตน์


และ คุณสิทธิรักษ์ ตุลาพิทักษ์ นั่งเชียร์อีกสองแรง จากนั้นก็มีการฉายฟิล์ม “โรงหนังอลังการ” ที่สนธยาถ่ายเองด้วยกล้องซูเปอร์ 8 มม. ความยาว 2 นาทีครึ่ง เกี่ยวกับกลุ่มคนดูหนังที่หน้าโรงหนังอลังการตรงหอศิลป์เจ้าฟ้า ระหว่างรอดูหนัง นักแสดงในหนัง (ที่ไม่รู้ตัว)


มีคุณสิทธิรักษ์ ตุลาพิทักษ์, คุณไพสิฐ พันธุ์พฤกษชาติ, คุณสุภาพ หริมเทพาธิป, คุณโดม สุขวงศ์, คุณนรา, คุณสมชาติ บางแจ้ง, คุณดุลยสิทธิ์ นิยมกุล เป็นต้น เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะเมื่อ สนธยา พากย์ว่าคนในหนังนั้นเป็นใครบ้าง เพราะภาพมันสปีดเร็วจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร นอกจากหนังของเขาแล้วยังมีฉายเพลงของ Christine Schafer และหนังสั้นของ Ulrike Ottinger ด้วย


งานมีอะไรบ้าง
ภายในงานมีผลงานแนะนำภาพยนตร์หลายสิบชิ้น ส่วนใหญ่เป็นกรอบภาพสรุปสั้น ๆ ถึงผู้กำกับหนังระดับยอดเซียนที่หนังสือในเครือฟิล์มไวรัสเคยจัดพิมพ์มา ทั้งที่พิมพ์เอง และที่จัดพิมพ์กับสำนักพิมพ์ openbooks และก็มีจัดแสดงชิ้นงานรวมหนังจับคู่ที่ให้เพื่อนนักวิจารณ์ช่วยคัดเลือกหนังควบในจินตนาการที่น่าจัดฉาย

แล้วยังมีจัดแสดงอุปกรณ์และกล้องฉายหนัง ฉายกิจกรรมต่างๆ ที่ ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์เคยจัดงานมา ข่าวกิจกรรมการฉายหนังจากสื่อต่างๆ โปสเตอร์หนัง และมีจำหน่ายหนังสือในเครือฟิล์มไวรัส


และที่พิเศษสุดอย่างที่เกริ่นไปแล้ว เกมฮอลลีวู้ดเมกกะ (Hollywood Mecca) ที่พิสูจน์ว่าใครอยากจะไปฮอลลีวู้ด หรือไปสายนอกกระแส ผู้เล่นสามารถเลือกเดินหมากได้ตามโชคและรสนิยม แต่ประหลาดดีที่ใครเดินพบหนังบล็อคบัสเตอร์ก่อน ดูท่าว่าอนาคตจะรุ่งโรจน์กว่าเลือกทางใต้ดิน


ย้ำอีกครั้ง และขอเชิญชวนทุกท่าน
งานฉลอง 13 ปี ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) มีจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.52 – 28 ม.ค.52 ที่ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถัดจากห้างมาบุญครอง เดินข้ามไฟแดงไปนิดเดียว ประตูทางเข้าก่อนป้ายรถเมล์แรกนะคะ (ตรงข้ามกับโรงเรียนเตรียมอุดม)


ตั้งแต่ก่อตั้งมา 13 ปี งานนี้เป็นครั้งแรกและคงเป็นครั้งเดียวที่ฟิล์มไวรัสมีจัดฉลอง เพราะงานแบบนี้ต้องใช้งบสูงมาก ลำพังฟิล์มไวรัสเป็นเพียงหน่วยงานอิสระเท่านั้น ไม่มีรายได้ใดๆ จากการฉายหนังหรือจัดกิจกรรมต่างๆ ทุกกิจกรรมล้วนเป็นทุนส่วนตัวที่เก็บสะสมทีละเล็กละน้อยทั้งสิ้น จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาสัมผัส ให้กำลังใจ และทำความรู้จักกับชาวฟิล์มไวรัส ในงานแสดงศิลปะครั้งแรกของพวกเขาที่ไม่เหมือนใคร

๘ ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ว้าวววววววววววววววววววววววว

ขอเอาไปลงกลแสงนะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สอบถามหน่อยครับว่าปิดให้เข้าชมกี่โมง เนื่องจากคงสะดวกตอนเย็น

ninamori กล่าวว่า...

ว้าววววววววววววววววววววว
ได้ลงกลแสงด้วยเหรอนี่ ดีใจจัง

ninamori กล่าวว่า...

การมาเยี่ยมเยียนของทุกท่าน คือกำลังใจของชาวฟิล์มไวรัส คะ

หอศิลป์เปิดทุกวันนะคะ

วันธรรมดา เปิด 10.00 น. - 19.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ เปิด 12.00 น. - 18.00 น.

FANCY_JOY กล่าวว่า...

Hello P-Sor, congratulations naka for the 13th Anniversary. The photos look wonderful. Another hardworking project from DK. Filmhouse again naka. I really feel sad that I cant go there.

Happy to hear that you already come back to Bangkok. I have already received your postcard naka. Thank you mak mak. Thomas really likes your handwriting and I like the poster of DK Filmhouse on the postcard ka.

ninamori กล่าวว่า...

อยากให้น้องจอยมาร่วมงานมากๆ เลยนะ รู้เปล่าว่าตรงประตูทางเข้ามีรูปจอยขนาด 20x24 นิ้ว ที่ถ่ายกับลุงแฮร์โซก ด้วยนะ น่ารักมาก

ล่าสุดลุงเพิ่งมีหนังติดท็อปเท็น 2008 ด้วย ในนิตยสารไทม์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอให้กำลังใจในการทำงานต่อไปค่ะ สำหรับพี่เซาะและพี่สน
อยากไปร่วมงานมาก มากเลยค่ะ แต่ไปไม่ได้

แจง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ต้องไปดูให้ได้ครับ
จากที่อ่าน คิดว่าชอบฮอลลีวูด เมกกะมากๆ
คอนเซปชวลจริงๆครับ