ปิ๊ปปี้เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผอมๆ ตกกระทั่วใบหน้าโดยเฉพาะรอบๆ จมูก ไว้ผมเปียสีแครอทซึ่งตั้งชี้ตรงดิ่งออกไปทั้งซ้ายขวาคล้ายคนกางแขน เธอใส่รองเท้าคู่ยาวกว่าขนาดเท้าจริง ถุงเท้าก็ยาวถึงเข่า แถมคนละสีอีกต่างหาก เธอเป็นเด็กอารมณ์ดี ซุกซน (มาก) ช่างสงสัย และทุกอย่างล้วนน่าสนใจสำหรับเธอ
เด็กทั่วโลกที่ได้ดูหนังปิ๊ปปี้ (หรืออ่านหนังสือ) ต่างหลงรักและอยากเป็นอย่างปิ๊ปปี้มาก เพราะปิ๊ปปี้เป็นความใฝ่ฝันของเด็กๆ เป็นหนังที่สร้างขึ้นมาจากมุมมองของเด็กอย่างแท้จริง ซึ่งต่างจากหนังเด็กทั่วไปที่สร้างจากมุมมองของผู้ใหญ่
ปิ๊ปปี้สามารถทำทุกอย่างได้ตามที่ใจต้องการ ไม่มีข้อแม้ กฎเกณฑ์ หรือข้อห้ามใดๆ เธอไม่ต้องไปโรงเรียน ไม่ต้องอาบน้ำแปรงฟันถ้าอารมณ์บ่จ๋อย จะเข้านอนกี่โมงก็ได้ สามารถวิ่งเล่นบนหลังคา หรือถ้านึกสนุกอยากทำความสะอาดบ้านตอนเที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 ก็ได้ เธอชอบโยนจานชามเล่นแตกกระจาย เธอชอบใช้แปรงขัดห้องน้ำมาตีไข่สำหรับทำคุกกี้ และใช้อ่างอาบน้ำเป็นที่นวดแป้ง มิหนำซ้ำเธอยังชอบทำอะไรเสี่ยงๆ ที่คนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ (รวมทั้งเด็กและผู้ใหญ่) ดูแล้วมันอันตรายเกินไป ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง และอื่นๆ อีกมากที่เห็นแล้วหัวใจจะวาย
ปิ๊ปปี้จึงเป็นหนังเด็กที่เด็กไม่ควรดูตามลำพัง เพราะเด็กก็คือเด็ก ยิ่งเด็กเล็กไม่ต้องพูดถึง พวกเขามีพฤติกรรมชอบเลียนแบบเต็มหัวใจ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกเขาเห็นปิ๊ปปี้กระโดดจากหลังคาแล้วตีลังกาลงมาข้างล่างบ่อยครั้ง โดยไม่เป็นอะไร ตัวอย่างไม่ไกลจากตัวฉันก็มี ครั้งหนึ่งลูกชายของเพื่อนบ้านจอมซ่าส์อายุ 5 ขวบ หลังจากเมามันส์กับการได้ดูหนังซูเปอร์แมนจบไม่นานนัก จู่ ๆ เขาก็บอกกับพี่เลี้ยงขณะยืนอยู่บนยอดบันไดคอนกรีตเกือบ 30 ขั้น ว่า “คอยดูดีๆ นะจะทำท่าซูเปอร์แมนให้ดู” คนข้างล่างก็ยืนรอดูอย่างตั้งใจ (จนต้องตกใจสุดขีด) เพราะนึกไม่ถึงว่าซูเปอร์แมนจะมาจริง แถมบินกางแขนท่าโหม่งพสุธาเสียด้วย เด็กเจ็บปางตาย แขนขาหักหลายท่อนต้องเข้าห้องไอซียูหลายวัน และยังต้องนอนพักรักษาตัวนานเป็นปี
อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่า ปิ๊ปปี้ เป็นเด็กเกเร นิสัยแย่ หากคุณมีเวลาอยู่กับเธอสักนิดคุณจะเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และสงสารเธอ จริงอยู่ที่เธอเกิดมาพร้อมพละกำลังมหาศาลสามารถยกม้า หรือคนพร้อมม้า หรืออะไรที่หนักกว่านั้นได้อย่างสบาย แต่อย่าลืมว่าเธอก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง อายุก็แค่ 7 ขวบ แม่ก็ตายตั้งแต่เธอจำความไม่ได้ ส่วนพ่อก็เป็นกัปตันอยู่แต่ในทะเล นานทีปีหนถึงจะกลับมาเยี่ยมให้เธอชื่นใจสักครั้ง แต่เธอก็สามารถดูแลตัวเอง และอยู่บ้านตามลำพังที่ วิลล่า วิลเลคูล่า กับม้าและลิงอย่างมีความสุข เธอมีเพื่อนสนิทอีก 2 คนที่มาจากบ้านที่เพียบพร้อมด้วยกฎกติกามารยาทชื่อ ทอมมี่ และ อานิก้า ความคิดหนึ่งที่ชอบมากตอนที่ ปิ๊ปปี้ ลองไปเรียนโรงเรียนวันแรกที่เธอพูดว่า “เรียนมากๆ นี่ทำให้คนสุขภาพดีๆ แย่ได้เหมือนกัน” สงสัยคงจะจริงนะ
แน่ล่ะ ปิ๊ปปี้ ก็ต้องการความรักจากพ่อและแม่มาก อยากกอดอยากคุย และอยู่ด้วยกันเหมือนครอบครัวคนอื่นๆ แต่เธอก็ไม่ได้จมปลักอยู่กับความโศกเศร้าที่เรียกหาแต่รักจนไม่เป็นอันทำอะไร เธอรู้จักสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองอยู่อย่างมีความสุขได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่เป็นเด็กที่ช่างจินตนาการและชอบผจญภัย ทุกๆ วันของเธอจึงเต็มไปด้วยสีสัน สำหรับ ทอมมี่ กับ อานิก้า แล้ว ปิ๊ปปี๊ คือสุดยอดคนเก่ง ปิ๊ปปี้สามารถทำทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย และไม่เคยลังเลที่จะทำทุกสิ่งที่ทุกคนคิดว่าทำไม่ได้
หากใครที่สนใจอยากดูหนัง ปิ๊ปปี้ นี้ ขอแนะนำว่าให้ดูฉบับสวีเดน ทั้งหมดมี 4 ตอน ที่คนแต่งเรื่อง
แอสตริด ลินด์เกรน (Astrid Lindgren) ถูกอกถูกใจมากๆ เพราะปิ๊ปปี้เวอร์ชั่นนี้แสดงเป็นธรรมชาติมาก จะให้ทำอะไร เธอก็คล่องแคล้วและสนุกไปหมด รูปร่างเธอก็ผอมๆ ยาวๆ สมกับที่อยู่คนเดียว ที่ต้องอดยากปากแห้ง แต่อย่าเผลอไปหยิบฉบับอเมริกันนะ เพราะปิ๊ปปี้ดูสมบูรณ์เกินไป แต่เธอตีลังกาเก่งมาก ที่เหลือดูแสดงๆ อาจทำให้เสียบรรยากาศได้
ปิ๊ปปี้ฉบับสวีเดน 4 ตอนคือ
ตอน 1 Pippi Longstocking
ตอน 2 Pippi Goes on Board
ตอน 3 Pippi in the South Seas
ตอน 4 Pippi on the Run