
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งเกิดอยากได้กระโปรงลายสก๊อตสีแดงให้ตุ๊กตาแพะใส่ เลยไปอ้อนพี่สาวให้ช่วยทำให้หน่อย แต่พี่ยังไม่ว่างเพราะกำลังทำการบ้านอยู่ พี่ขยับเก้าอี้ให้นั่งใกล้ๆ เธอสัญญาว่าจะทำให้เมื่อทำการบ้านเสร็จ แต่มีข้อแม้ว่าฉันต้องนั่งให้เรียบร้อย



สบายมาก ! ฉันทำตามที่พี่บอก มือทั้งสองยังกอดตุ๊กตา ตาก็จ้องที่กระดาษ ไม่ยักรู้ว่าพี่สาวของฉันมีเวทมนต์ด้วยแฮะ มันเป็นอะไรที่วิเศษมากเลยนะ ไอ้เส้นๆ ที่พี่เรียกว่าตัวหนังสือนี่นะ มันคล้ายมายากลเลย มันเหลือเชื่อจริงๆ แค่พี่ขยับมือขึ้นลงนิดหน่อย ก็สามารถปลุกเศษให้เส้นปรากฏขึ้นมา
“โตขึ้น ฉันจะเขียนหนังสือให้ได้ จะเขียนให้สวยๆ เหมือนพี่เลย” ฉันวาดฝันไว้ในใจ
อีก 2-3 ปีต่อมาฉันก็ได้ไปโรงเรียนกับเขาสักที... ฉันยังไม่ลืมความฝันนั้น...
แต่ที่โรงเรียนไม่เป็นอย่างที่คิด ครูดุมาก พวกเรามักยั่วโมโหครูบ่อยครั้ง ผลก็คือไหล่ขวาของฉัน ของเพื่อน และเพื่อนอีกคนต่างบวมเป่ง เหตุเพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ใครๆ ก็อยากเป็นเด็กดี เป็นคนโปรดของครูล่ะนะ แต่พวกเราไม่เข้าใจภาษาที่ครูพูดจริงๆ เกิดมาพวกเราก็พูดแต่ภาษามาลายู น่าเสียดายจังที่ครูพูดภาษาเราไม่ได้



ฉันไม่อยากเขียนหนังสือ... แล้วฉันก็ไม่อยากไปโรงเรียนด้วย... นิสัยนี้ติดตัวจนโต หนังสือเป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุด เปิดทีไรง่วงนอนทุกที ทุกอย่างเป็นทางการ อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม
จนกระทั่งเจ้าสำนักฟิล์มไวรัสมอบหนังสือเล่มหนึ่งเป็นของขวัญ มีชื่อว่า เมตามอร์ฟอร์ซิส ของฟรานซ์ คาฟก้า เป็นเรื่องเหนือจริง ที่เต็มไปด้วยจินตนาหลุดโลก มันสยองมากเลยนะ ถ้าอยู่ๆ เมื่อเราตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นแมลง มีขนเต็มตัว ดูประหลาดๆ น่าเกลียดๆ ที่สำคัญเราไม่สามารถใช้ชีวิตแบบเก่าได้แล้ว ทั้งๆ ที่จิตวิญญาณความรู้สึกนึกคิดยังเป็นคน แต่ต้องกินอยู่อย่างแมลง
ต้องขอขอบคุณ คาฟก้า ที่เนรมิตงานนี้ออกมา และเจ้าสำนักฟิล์มไวรัสที่แนะนำหนังสือดีๆ ให้อ่าน ซึ่งทำให้มนต์เสน่ห์ของอักขระกลับมาโลดแล่นในใจฉันอีกครั้ง