by Ninamori
อ่ะ...อะไรน่ะ ! ทำอะไรน่ะ... งงๆ ผสมตกใจเหมือนถูกผสมสีเมื่อ จอย- หรรษา (ผู้จัดการหอศิลป์จามจุรี- ที่อายุน้อยที่สุด) เชิญชวนให้ฉันเข้าร่วม Workshop - Printmaking (พิมพ์หรรษา) หรือ Woodcut ณ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเดือนกันยายน 2549
ไม่...ไม่ไหวค่ะ เพราะในชีวิตฉันเคยสัมผัสสีแค่ 2 ครั้ง ตอนอยู่ ป.4 เท่านั้นเอง ครั้งแรกคือเป่าสีบนกระดาษ ส่วนอีกครั้งแกะมะละกอเป็นรูปดอกไม้ จุ่มสี แล้วเอามาพิมพ์บนกระดาษ แล้วกระดาษของฉันก็เต็มไปด้วยดอกไม้ หลังจากนั้นฉันก็เฝ้ารอให้ถึงชั่วโมงเรียนศิลปะอีก เพราะอยากได้ผีเสื้อเพิ่ม แต่ก็ฝันสลาย เพราะทั้งครูและศิลปะหายไปพร้อมกันเลย กลายเป็นวิชาพละเฉยเลย
เรียนมั๊ย สนุกนะ...เสียง จอย – หรรษา ยังดังอยู่ใกล้ๆ
เกิดม็อบเล็กๆ (ในใจ) ฉันอยากเรียนมาก แต่ก็กลัวมากอีกเหมือนกัน เพราะวาดอะไรกับเขาไม่เป็นเลย ในเมื่อ จอย – หรรษา ยืนยันว่าไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้ เอาก็เอาวะ สมัครเลยแล้วกัน (ในใจก็คิดเผื่อไว้ว่าถ้าใจฝ่อ ค่อยโทรยกเลิกทีหลังก็แล้วกัน)
จริงๆ ด้วยช่วงเรียน Woodcut ฉันและเพื่อนๆ สนุกมากเลย ทั้งๆ ที่จริงฉันหงุดหงิดเลยเกินกับมือตัวเองที่วาดรูปไม่ได้ดั่งใจคิด ตอนแรกฉันอยากได้แพะสันหลังหวะ - แพะต่างจังหวัดที่เข้ามาในเมืองกรุง แต่โชคร้ายที่เจอคู่รักซึ่งกำลังทะเลาะกัน ขว้างเปลือกทุเรียนหลุดออกมานอกคอนโด แล้วมาโดนหลังของเจ้าแพะพอดีเป๊ง
ภาพแรกไม่สำเร็จ... จากแพะกลายเป็นสตอร์เบอร์รี่แทน
ภาพที่สอง ฉันอยากวาดภาพคนนอนในน้ำ และมีสัตว์จำพวกแมลงอะไรสักอย่างอยู่บนร่าง...
ฉันยิ้มกับผลงานที่ออกมา แต่มันไม่ได้เป็นภาพที่อยากได้หรอกนะ มันกลายเป็นหน้าแมวในนาทีสุดท้าย (แมวที่ฉันเห็นบนหลังคาที่บ้าน มันเป็นแมวแปลกหน้าที่ไม่มีเจ้าของ แต่ครั้งหนึ่งฉันกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับมัน หลังจากเดินทางไปต่างจังหวัดนานเป็นเดือน)
ในเมื่อไม่สามารถวาดภาพที่เป็นรูปเป็นร่างได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือวาดเป็นชิ้นๆ เป็นส่วนต่างๆ แล้วค่อยเอามารวมกันน่าจะดีกว่า
เอาล่ะนะ... อยากได้ภาพผู้หญิงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวฉันเอง และภาพผู้ชายอีก 1 (สู้ๆๆ)
โอ๊ยย... ไม่นะ ฉันขีดๆ เขียนๆ แล้วก็ลบแล้วลบอีก สุดท้าย...สำเร็จแฮะ... แม้จะไม่ได้เลอเลิศอะไร แต่ฉันก็พอใจกับภาพที่วาดลงบนไม้
หนึ่ง... สอง... สาม... ฉันสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนที่จะลงมือแกะภาพที่วาดไว้บนไม้ด้วยเครื่องมือที่ทางเจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ มันเป็นเหล็กปลายแหลมรูปตัววี (v) มีหลายขนาดให้เลือก ฉันค่อยๆ แกะลายไป มือสั่นเล็กน้อย มันไม่ง่ายเลยแฮะ
อุ๊ย ! เผลอหน่อยเดียวเอง ไม่น่าเลย... อาจเป็นเพราะฉันลงน้ำหนักตอนกดมากไป มันเลยออกนอกลู่นอกทาง แต่ไม่เป็นทุกอย่างมีทางแก้ไข
ฉันตั้งหลักใหม่อีกครั้ง แล้วค่อยๆ เรียกใจ (ขวัญเอ๊ยขวัญมา) มือ- ตา- แขน-ขา ก็มา ฉันมาแล้ว อย่าเกเรนะ ใจฉันอยู่นี่แล้ว ฉันขอแกะลายเธอหน่อยนะ ...
ฮา ฮ่า... และแล้วก็สำเร็จ เพื่อนโต๊ะโน้นทำได้ ฉันโต๊ะนี้ก็ทำได้เหมือนกัน
นักเรียนครับ... เสียงอาจารย์เรียกพวกเรา เสียงนี่ใสเลย หน้าอาจารย์ก็ยิ้มแย้ม เหมือนจะบอกข่าวดีอะไรบางอย่าง
จริงๆ ด้วย อาจารย์บอกว่าจะจัดแสดงผลงานของพวกเรา ให้เลือกภาพที่พอใจที่สุดคนละ 1 ภาพ เพื่อเอาไปใส่กรอบแล้วแสดงภาพกันเลย
ทุกคนตื่นเต้นกันใหญ่ ส่วนฉันตื่นเต้นยิ่งกว่า คืนนั้นนอนไม่ค่อยหลับแฮะ คิดๆ ดู ฉันก็แค่ตาสียายสา ได้มาเรียนก็บุญโขแล้ว แต่นี่ยังจะได้แสดงงานด้วย ตื่นเต้นๆ
และตื่นเต้นอีกครั้ง เมื่อฝรั่งคนหนึ่งที่มาดูงานที่หอศิลป์สนใจซื้อผลงานนักเรียนไป 2 ชิ้น หนึ่งในนั้นเป็นของฉันด้วย ป่านนี้งานของฉันคงนอนหนาวที่ไหนสักแห่งในประเทศออสเตรเลีย
อยากขอบคุณทางหอศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, อ. สุรชัย เอกพลากร (อาจารย์ที่ทำให้ชีวิตการเรียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม) น้องๆ ทีมงานคนขยันของหอศิลป์ทุกท่าน ที่เติมเต็มชีวิตฉันให้มีความสุขตลอดเวลาที่อยู่ในโลกศิลปะ
หมายเหตุ : กิจกรรมนี้เปิดให้เรียนฟรี อาจปีละครั้งหรือสองครั้ง ท่านใดที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ หอศิลป์จามจุรี โทร. 02-2183709 หรือ http://www.jamjureegallery.org/
๔ ความคิดเห็น:
เซาะ..
นอกจากข้อเขียนอ่านสนุกแล้ว ภาพวู๊ดคัทยังน่าสนใจและสวยมากด้วย เออเนอะ เซาะมักมีอะไรดีๆมาให้เพื่อนอย่างเราได้ทึ่งอยู่เสมอๆ อยากให้ชั่วโมงศิลปะวันเก่าของเด็กผู้หญิงคนนั้น ได้เติมรูปผีเสื้อลงไป รวมถึงรูปอื่นๆอีกมากมาย เพราะวันนี้เราอาจได้มีโอกาสดูงานศิลปะดีๆอีกหลายชิ้น กะจุ๋ม
ศิลปะไร้ขีดจำกัด Woodcut ของคุณ Ninamoriแปลกดีนะคะ
ณัฐชา
พี่เซาะครับ หนุ่ยชอบทั้งสองชิ้นเลยครับ แต่ชิ้นแรกดูมีพลังมากกว่า
อย่าเลิกทำงานศิลปะ เขียน ถ่ายรูปนะครับ หยุ่ยว่าพี่ทำได้ดีแล้ว จะคอยติดตาม และเป็นกำลังใจครับ ;)
ขอให้สนุกที่หัวหินครับ อิ อิ
หนุ่ย
ดีใจจังที่ กะจุ๋ม, คุณณัฐชา และน้องหนุ่ย ชอบภาพ woodcut และขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆ ที่ส่งมาให้นะคะ
แสดงความคิดเห็น