วันพฤหัสบดีที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

โลกหลากสีของมะณอย

หมายเหตุจาก Ninamori : บทความ โลกหลากสีของมะณอย ชิ้นนี้เป็นการบันทึกของ สุมณฑา สวนผลรัตน์ สาวมาดมั่นนิสัยดี เธอเป็นหนึ่งในนักแสดงละครเวทีมืออาชีพที่ทุ่มเททั้งชีวิตและหัวใจให้กับการแสดงอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย มาเถอะไม่ว่าจะเป็นบทไหนเธอรับได้หมดและสามารถสะกดคนดูได้อยู่หมัด ทั้งบทฮา บทใบ้ บทที่ต้องเต้นพลิ้วไหว หรือบทซีเรียส เธอเคยทำให้ใครหลายคนร่วมทั้งฉันถึงกับตาโตอ้างปากค้างในบทต่างๆ ที่เธอเล่น อย่างล่าสุดคือ Vagina Monologues หน้าเวทีมีเธอและเก้าอี้ 1 ตัว แค่นั้นเอง แต่สิ่งที่เธอเล่า คำพูดที่ออกจากปากของเธอด้วยสีหน้าเขินอาย และเกรี้ยวกราดเมื่อมีสิ่งกระทบใจ ฟังน้ำเสียงเธอนุ่มนวล ระหว่างที่รู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับเธอ อยู่ๆ เธอก็ระเบิดอารมณ์อย่างไม่ปรานีถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ ทั้งห้องเงียบกริบ

อ่านบทสัมภาษณ์ของเธอและเพื่อนๆ ได้ที่ http://www.onopen.com/2006/02/340

ละคร Vagina Monologues
http://www.onopen.com/2007/02/1921



โลกหลากสีของมะณอย
โดย สุมณฑา สวนผลรัตน์ Email : Sumontha55@hotmail.com





ช่วงเย็นย่ำของวันอาทิตย์ แถวจุฬาลงกรณ์ ฉันสุ่มเดินเข้าไปในหอศิลป์จามจุรี โดยที่ยังไม่รู้ว่า โปรแกรมงานในวันนี้จะมีอะไร เป็นงานของใคร งานศิลปะประเภทไหน หรือจะมีงานแสดงไหมก็ไม่รู้ แต่นั่นแหละมันเป็นกิจกรรมที่ฉันชอบทำอยู่บ่อยๆ ถ้าเกิดมีอันต้องผ่านมาแถวนี้ บางทีมันเหมือนกับการจับฉลากว่าวันนี้จะเจออะไร แต่บางทีก็เป็นการทำความรู้จักเพื่อนใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ตัวคน แต่เป็นการทำรู้จักผ่านชิ้นงานของเขา ผ่านสายตาที่มองโลกของเขา ที่อาจไม่เหมือนฉันเลย บางทีมันเหมือนเป็นที่หลบพักน่ะ เป็นช่องทางที่ใช้เดินเข้าไปสู่โลกของเจ้าของงานอย่างเงียบๆ และแสนจะเพลิดเพลิน

และวันนี้โลกใบเล็กที่อนุญาตให้ฉันเข้ามาเดินเที่ยวเล่น คือ “โลกหลากสีของมะณอย” ฉันรู้ว่ามะณอยยังเป็นเด็ก เพราะลายเส้นรูปวาดที่ไร้เดียงสาของเธอแนะนำตัวเองว่าอย่างนั้น หลังจากได้ดูภาพในโปสเตอร์สีสันฉูดฉาดบาดตา ฉันก้าวเดินต่อไปในห้อง เห็นมุมหนึ่งของห้องมีเสื่อปูและผู้หญิง2 คนนั่งอยู่ คนหนึ่งเป็นแม่ และอีกคนเป็นลูก ใช่แล้ว ! แม่ และมะณอย ฉันยืนอ่านโปส์เตอร์ที่แปะอยู่ด้านหลังเธอพอดี อ่านอยู่ซักพัก จนไม่รู้ว่ามะณอยเริ่มอึดอัดหรือเปล่า เพราะเธอเริ่มโยกตัว และส่งเสียงเล็กน้อย ทำให้ฉันต้องค่อยๆ เดินห่างออกมา


ความรู้ทั่วๆ ไปเกี่ยวกับตัวเธอคือ มะณอย มีชื่อจริงว่าเด็กหญิง พิชญา เลิศทรัพย์เจริญ แต่ มะณอยไม่ใช่เด็กหญิงธรรมดาๆ ค่ะ เธอเป็นเด็กพิเศษ ที่มีความพิเศษทั้งในแง่มีฝีไม้ลายมือในงานศิลปะจนเข้าขั้นมือรางวัล ที่เคยเดินทางไปคว้า Supreme Gold Award จากงานประกวดศิลปะเด็กนานาชาติ ครั้งที่ 36 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (The 36th International Children’s Art Exhibition) มาแล้ว ส่วนความพิเศษอีกแง่หนึ่งคือ มันเป็นคำจำกัดความทางการแพทย์ที่เรียกเธอว่าเด็กพิเศษ หรือ ออทิสติก สิ่งนี้เองที่เป็นจุดเชื่อมโยงให้ โครงการ การศึกษาพิเศษเพื่อพัฒนาความสามารถทางการเรียนรู้ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม กระโดดมาเป็นตัวตั้งตัวตีจัดงานศิลปะในครั้งนี้เพื่อเผยแพร่ความสามารถพิเศษของมะณอยให้คนทั่วไปได้รู้จัก นั่นเป็นข้อมูลคร่าวๆ ที่ฉันได้รู้เกี่ยวกับตัวเธอ

ฉันเดินต่อไปเพื่อดูรูปบนผนัง ภาพส่วนใหญ่ของมะณอยเป็นภาพผู้หญิง ในอริยาบทต่างๆ เช่นยืนยิ้ม ออกกำลัง เต้นเชียร์ลีดเดอร์ ร้องไห้ หรือทำงาน แต่ผู้หญิงแบบที่เห็นบ่อยที่สุด คือรูปนางพยาบาล

คุณครูบอกว่าตอนเด็กๆ มะณอยไปโรงพยาบาลบ่อย และไปหลายๆ ที่ จึงไม่น่าแปลกที่ โลกหลากสีของมะณอยจะมีนางพยาบาลซะมากมาย บางรูปนางพยาบาลยิ้ม บางรูปทำหน้าเฉยๆ บางรูปใส่เหล็กดัดฟัน บางรูปมีดอกไม้อยู่บนผม แต่ไม่ว่ารูปไหนๆ นางพยาบาลของมะณอยจะต้องมีแก้มกลมๆ และผมหนาๆ ยืนหน้ายิ้มบ้างหุบบ้างอยู่ในภาพสีสันสดใส สะดุดตา มะณอยคุยกับฉันผ่านภาพของเธอต่อว่าสิ่งที่มักเห็นเป็นประจำในโรงพยาบาล มีทั้งเรื่องราวของนางพยาบาลที่กำลังให้น้ำเกลือคนไข้ เรื่องของพี่ขาเจ็บที่ถือไม้ค้ำยันทั้ง 2 ข้าง หรือเรื่องแปลกๆ อย่างภาพพี่พยาบาลยืนอุ้มชายหนุ่มผูกไท โลกที่สดใสของมะณอยไม่ได้หยุดอยู่แค่ในโรงพยาบาล โลกของเธอค่อยๆ มีผู้คนต่างๆ เข้ามาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นภาพพี่ๆ นักศึกษาผู้หญิง ที่เธอเจอะเจอตอนเข้าโรงเรียน ภาพหางเครื่องเพลงลูกทุ่งในทีวีที่เธอโปรดปรานจนต้องเปิดทีวีรายการเพลงลูกทุ่งไว้เสมอตอนที่เธอวาดรูป


แม่ของมะณอย เล่าให้ฟังว่ามะณอยชอบวาดรูป และวาดได้ทุกที่ทุกเวลาที่เธอรู้สึกอยากวาด ทำให้ไปไหนมาไหนแม่ต้องพกสี และกระดาษไปด้วยเสมอ ภาพที่วาดถึงแม้จะวาดเสร็จแล้วในวันนี้ แต่เธอมักจะวาดภาพใหม่เติมลงไปในกระดาษแผ่นเดิม หรือบางทีก็ตัดภาพมาแปะเพิ่ม พอวาดเสร็จก็พับเก็บไว้ เพื่อวันใหม่จะได้เอาออกมาวาดอะไรใส่ลงไปอีก ดังนั้นภาพวาดของมะณอยจึงมีรอยยับเพราะมันมักเดินทางไปที่ต่างๆ กับเธอ เพื่อรอให้เจ้าของเติมสีแต้มสันที่สดสวยลงในกระดาษอยู่เรื่อยจนกว่าจะพอใจ

ระหว่างที่ฉันกำลังเพลินไปในโลกหลากสีของเธอ เด็กหญิงมะณอยตัวจริงก็กำลังวิ่งกระโดดไปมาอย่างร่าเริงในห้องแสดงงาน บางทีเธอวิ่งเข้ามากอดฉันถึงเธอจะไม่ได้พูดอะไรออกมาซักคำ แต่ฉันรู้สึกว่าเธอกำลังมีความสุขที่เห็นคนก้าวมาเยี่ยมชมโลกของเธอ ครูบอกว่ามะณอยสื่อสารพูดเป็นประโยคไม่เก่ง แต่รูปวาดที่สื่อถึงโลกธรรมดาๆ ที่สดใสของเธอ ทำให้ฉันอยากบอกกับเธอบ้างว่า ถึงความเป็นออทิสติกจะทำให้เธอไม่สามารถพูดผ่านปากเป็นประโยคได้ถนัดถนี่ แต่เธอก็สามารถคุยกับฉันได้อย่างเสรีบนรูปวาด ขอบคุณที่แต้มโลกสีจางๆ ของฉันในเย็นวันนี้ให้กลายเป็นโลกหลากสีด้วยภาพของเธอ

๓ ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

!
พี่เซาะมาหอศิลป์จาม เหรอ
คิดย้อนไปก็ใจหาย
เหมือนโคจรมาใกล้ ใกล้เกือบเจอ
แต่ก็ไม่
ยิ่งช่วงนี้หอสมุด มธ ปิดเลยไม่ได้เจอกันเลย

take care นะคะ :]
แพร.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากดูงานมะณอยบ้างจัง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ท่าทางคนเขียนรักเด็กเน๊อะ เขียนอ่านสนุกดีค่ะ

* มะปราง *